สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน ในยุค 2023 ถ้ามองกันที่เทคโนโลยีเราเตอร์ เริ่มมี WIFI 7 เข้ามาในตลาดกันบ้าง แต่ WIFI 6 ในปี 2023 ที่ยังคงมีการทำตลาดกันอยู่ ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย พร้อมกับฟีเจอร์ที่มากขึ้น โดยสิ่งที่เห็นได้ชัด พอร์ต 2.5 Gbps ทำให้การใช้งานเหนือชั้นมากกว่าแต่ก่อน ทาง TP-Link ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตเราเตอร์ที่ทำ WIFI 6 Router ในทางเลือกที่หลากหลาย ที่มีการออกแบบจุดต่างๆได้มีความน่าสนใจ พร้อมกับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพเหนือชั้น โดย TP-Link Archer AX80 ที่เราได้มารีวิวในวันนี้ ที่ภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูแล้วให้ความรู้สึกอลังการงานสร้าง โดยมีเสาอากาศ 8 ต้น ทางด้านการเชื่อมต่อไร้สายตามสเปค ในย่านความถี่ 5 Ghz ด้วยความเร็ว 4804 Mbps และ ย่านความถี่ 2.4 Ghz ด้วยความเร็ว 1148 Mbps พร้อมรองรับพอร์ต WAN หรือ LAN 2.5 Gbps เพิ่มการใช้งานเข้ามา รองรับอนาคตหรือเครือข่ายประสิทธิภาพสูง ส่วนประสิทธิภาพและการใช้งาน ต้องตามมาชมกัน
TP-Link Archer AX80 สิ่งที่ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจ นอกจากพอร์ต 2.5 Gbps คือแรม 512 MB และ หน่วยประมวลผลกลาง 4 แกน ที่ความถี่สัญญาณนาฬิกา 2.0 Ghz มันคือเราเตอร์ในระดับพรีเมี่ยม นอกจากนั้นภาคขยายสัญญาณความแรงสูงที่ถูกใส่เข้ามาให้ได้ใช้งานกัน ที่สำคัญตัวนี้ได้ใช้หัวใจหลักจาก Qualcomm มั่นใจกับการใช้งานและเสถียรภาพได้
ฟีเจอร์ EasyMesh ใช้งานเครือข่ายไร้สายบน SSID ชื่อเดียวภายในบ้าน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเราเตอร์ และ Range Extender จากแบรนด์ TP-Link และแบรนด์อื่นๆที่รองรับฟีเจอร์นี้ ก็เป็นอีกความน่าสนใจจาก TP-Link
Package & Bundled
แพ็คเกจที่มาในสไตล์ของด้วยกล่องสีเขียวตามสไตล์ของ TP-Link ในยุค 2023 มีการบ่งบอกรายละเอียดเอาไว้อย่างชัดเจน ของในชุดมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น ,สายแลน และ พาวเวอร์ซัพพลายแบบ 2 ขาแบน
Design & Detail
TP-Link Archer AX80 จะมีการใช้รูปโฉมภายนอก ทรงห้าเหลี่ยม ที่มีพื้นผิวที่ดูพรีเมื่ยม ซ้อนทรงสามเหลื่ยมเข้ามา โดยที่ส่วนหน้าที่เป็นไฟ LED แสดงสถานะ โดยวัสดุภายนอกเป็นพลาสติกสีดำทั้งหมด พร้อมกับช่องระบายอากาศที่เยอะมาก เรียกได้ว่าใช้งานหนักนั้นระบายความร้อนได้สบาย ส่วนตรงกลางมีลูกเล่นตัดวางทแยงเป็นช่องระบายความร้อน
เสาอากาศ 8 ต้น ที่ไม่สามารถถอดได้ แต่สามารถปรับมุมในแนวตั้งและแนวนอน ด้วยรูปทรงมุมสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมกันการปั๊มโลโก้ TP-Link ที่เสา
ด้านหน้ามีปุ่มฟังก์ชั่น 1.เปิด/ปิด เครือข่ายไร้สาย 2.เปิด/ปิด แสงสว่าง 3.เรียกใช้ฟีเจอร์ WPS
ด้านล่างจะมีช่องระบายความร้อน พร้อมกับฉลากบ่งบอกข้อมูลประจำตัว ที่ยังสามารถห้อยหรือแขวนได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม
การใช้งานด้านหลัง จุดเชื่อมต่อพาวเวอร์ซัพพลาย , ปุ่มเปิด/ปิด ,ปุ่มรีเซ็ต ,พอร์ต 2.5 Gbps WAN/LAN ,พอร์ต Gigabit WAN/LAN และ พอร์ต Gigabit LAN 3 ช่อง
พอร์ต USB 3.0 ที่มาอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง
Setup
การเข้ามาเซ็ตอัพการใช้งาน สามารถทำผ่าน URL tplinkwifi.net ที่สะดวกสำหรับมือใหม่ดีครับ โดยถ้าใครไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถทำผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน โดยเชื่อมต่อผ่าน SSID ของ TP-Link Archer AX80 เมื่อเข้ามาแล้วทำการตั้ง Password กันก่อน
การปรับตั้งค่า Time Zone ซึ่งการใช้งานในประเทศไทย ก็ +07.00
เลือกให้ระบบทำการตั้งพอร์ต WAN ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่พอร์ตความเร็ว 2.5 หรือ 1 Gbps
การจัดการ Wi-Fi ในเบื้องต้น ถ้าใครจะให้รวมทั้งสองความถี่บน SSID ด้วยกัน ก็ใช้ Smart Connect ได้ครับ ส่วนใครอยากแยกความถี่เป็น 2.4 และ 5 Ghz สามารถแยกออกได้ทันที โดยไม่ต้องเลือกเปิด Smart Connect
ใครที่ชอบอัพเดท Firmware ก็มีฟีเจอร์อัพแบบออโต้ให้ครับ
เรียบร้อย จบครบการเซ็ตอัพ
Setup
หน้าของสถานะของระบบเครือข่าย ที่สะดวกใช้งานง่ายๆ
การปรับแต่งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การจัดการเครือข่ายไร้สาย สิ่งที่เราควรจะต้องมาเปิดการใช้งานคือ OFDMA ที่จะช่วยทำให้การใช้ลูกข่ายไร้สายพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ได้มีประสิทธิภาพและความไหลลื่นมากขึ้น แล้วในส่วน SSID ของผู้เยี่ยมชมที่มีให้ใช้งาน
ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัย HomeShield ที่ทาง TP-Link นั้นออกแบบมาให้สามารถจัดการผ่านแอปพลิเคชั่นได้สะดวก
การจัดการเครือข่าย ที่สามารถปรับแต่งได้ตามการนำไปใช้งาน ส่วน DDNS ทาง TP-Link จะมีบริการของโดยแบรนด์เอง แน่นอนว่าการเซ็ตอัพจะง่ายมากว่าการใช้ NO-IP หรือ DynDNS โดยยังคงรองรับการใช้งาน
การจัดการระบบเครือข่ายไร้สาย สามารถปรับแต่งการทำงาน สามารถแยกปรับ หรือ ใช้แบบ Smart Connect รวมสองคลื่นความถี่บน SSID เดียวกัน การตั้งค่าแบนด์วิธ สามารถตั้งได้สูงสุดที่ 160 Mhz ในย่าน 5 Ghz
พอร์ต USB ที่สามารถให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อทางพอร์ต USB ใช้งานในการแชร์ไฟล์โปรโตคอล Samba หรือ FTP ได้
การจัดการการใช้งานของ Port Forwarding ในการใช้งานเฉพาะทาง หรือ เพื่อความปลอดภัย บางทีจำเป็นต้องเปิดใช้งานด้วย
ความปลอดภัยทางด้านเครือข่าย ด้วยระบบ Firewall ที่ควรจะเปิดไว้ครับ เพราะเดี๋ยวนี้การใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้นมีความเสี่ยงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
การใช้งาน VPN ที่มีความจำเป็นมากกับการใช้งานยุคสมัยนี้
IPv6 ที่ในอนาคตนั้นจะเป็นการใช้งานหลัก ซึ่งในยุคนี้เราเริ่มเห็นได้ว่าถ้าปลายทาง ( Website หรือ Server ) ที่ใช้ IPv6 จะมีประสิทธิภาพที่เหนือระบบเครือข่ายที่เป็น IPv4
Alexa ที่ Router TP-Link รองรับการสั่งงานร่วมกัน แต่ต้องมีอุปกรณ์ Alexa ในเครือข่าย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ TP-Link ที่จะมีฟีเจอร์ OneMesh เพื่อการใช้ Range Extender จาก TP-Link ในรุ่นที่รองรับ มาเชื่อมต่อเพื่อขยายเพิ่มพื้นที่การใช้งานเครือข่ายไร้สาย ฟีเจอร์ Easymesh ใช้งานเครือข่ายไร้สายบน SSID ชื่อเดียวภายในบ้าน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเราเตอร์ และ อุปกรณ์รุ่นนี้จะได้รับการอัพเดทเฟริ์มแวร์ให้รองรับการใช้งานฟีเจอร์ EasyMash เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์จากแบรนด์ต่างๆได้มากขึ้น
ส่วนใครที่ต้องการใช้งานเป็น Access Point ไปเชื่อมต่อกับเครือข่ายเดิมที่ใช้อยู่ ก็สามารถทำได้
ประสิทธิภาพการใช้งาน
TP-Link Archer AX80 ตัวหลักจะวางไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน โดยลูกข่ายในการทดสอบเป็น Realme GT Neo Flash Edition โดยอินเทอร์เน็ตแพ็คเกจ 1000/300 Mbps

1-1 : การทดสอบจุดแรกเป็นห้องชั้นสองด้านหลังบ้าน ซึ่งประสิทธิภาพที่ออกมา 917 Mbps สุดของแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตที่ทดสอบได้
1-2 : การทดสอบที่สอง ห้องนอนชั้นสอง ด้านหน้าของบ้าน ประสิทธิภาพที่ออกมา 731 Mbps
2-1 : การทดสอบที่สาม ชั้นล่างค่อนไปทางหน้าบ้าน ประสิทธิภาพที่ทำได้ 663 Mbps
2-2 : การทดสอบที่สี่ ด้านนอกตัวบ้านบริเวณพื้นที่จอดรถ ความเร็วที่ทำได้ 449 Mbps ถือว่าแกร่งกับความถี่ย่าน 5 Ghz
การทดสอบชุดที่สองในย่านความถี่ 2.4 Ghz
1-1 : การทดสอบจุดแรกเป็นห้องชั้นสองด้านหลังบ้าน ซึ่งประสิทธิภาพที่ออกมา 379 Mbps
1-2 : การทดสอบที่สอง ห้องนอนชั้นสอง ด้านหน้าของบ้าน ประสิทธิภาพที่ออกมา 185 Mbps
2-1 : การทดสอบที่สาม ชั้นล่างค่อนไปทางหน้าบ้าน ประสิทธิภาพที่ทำได้ 227 Mbps
2-2 : การทดสอบที่สี่ ด้านนอกตัวบ้านบริเวณพื้นที่จอดรถ ความเร็วที่ทำได้ 93.5 Mbps ถ้ามองที่อุปกรณ์ IoT ความเร็วที่ออกมาถือว่าแรงมาก แรงเหลือๆ
Conclusion
TP-Link Archer AX80 มันก็คือความสุดของ WIFI 6 Router ในราคาที่ไม่สูงมาก พร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานมาอย่างครบถ้วน พร้อมกับพอร์ต 2.5 Gbps ในการใช้งาน WAN หรือ LAN รองรับอินเตอร์เน็ตความเร็วมากกว่า 1 Gbps หรือ การสตรีมมิ่งที่ความเร็วสูง ในการทสอบที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วระดับ Gigabit ได้อย่างไหลลื่น จากการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายในมาตรฐาน WIFI 6 ถ้ามองกันที่ความครอบคลุมความทะลุทะลวงของสัญญาณ แรงสะใจมาก ด้วยการที่มีภาคขยายสัญญาณข้างใน ได้ความครอบคลุมพื้นที่ การใช้ในบ้าน 2 ชั้น หรือ 3 ชั้น (ควรวางที่ชั้น 2 ของบ้าน) ตอบโจทย์การใช้งานคอนเทนต์ระดับ 8K ได้อย่างไหลลื่น มี Homeshield ช่วยป้องกันความปลอดภัย อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อลูกข่ายจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ที่ TP-Link Archer AX80 เป็นอีกหนึ่งโมเดลของ WIFI 6 Router ที่ทาง TP-Link นั้นได้มีการใช้หัวใจหลักจาก Qualcomm ผนวกกับแรม 512 MB ในเราเตอร์สเปคแรง ภายนอกพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับพอร์ต 2.5 Gbps รองรับอินเตอร์เน็ตความเร็วระดับ 2.5 Gbps หรือ เครือข่ายที่เชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่ากิกะบิต เช่น NAS 2.5 Gbps กับราคาเราเตอร์ที่ไม่สูง สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Website: https://bit.ly/3pyh8Cn
Lazada: https://bit.ly/3Oa5hEP
Shopee: https://bit.ly/3OgQvfB
สอบถามปัญหาเทคนิค inbox ที่ Fanpage: TPLinkTH
#tplink #tplinkth #networksolution #AccessPoint #wifi6 #Router #internet #ax80
Special Thanks : TP-Link Enterprise(Thailand) Co.,Ltd.